HLOOKUP ต่างจาก VLOOKUP ยังไง

นอกจาก VLOOKUP แล้ว Excel ยังมี Function ที่ชื่อคล้ายๆ กันอีกตัวนึงคือ HLOOKUP  โดยความแตกต่างของรูปแบบของตารางข้อมูล คือ VLOOKUP จริงๆ แล้วย่อมาจาก Vertical Lookup ตัองใช้กับตารางข้อมูลแนวตั้ง HLOOKUP ย่อมาจาก Horizontal Lookup ต้องใช้กับตารางข้อมูลแนวนอน ตารางข้อมูลแนวตั้ง VS ตารางข้อมูลแนวนอน  ตารางข้อมูลแนวตั้งหลักการดูง่ายๆ คือ ถ้าคิดว่ามีข้อมูลเพิ่มขึ้น จะต้องเพิ่มที่ “บรรทัดถัดไปจากบรรทัดสุดท้ายที่มีข้อมูล” ตารางข้อมูลแนวนอนหลักการดูง่ายๆ คือ ถ้าคิดว่ามีข้อมูลเพิ่มขึ้น จะต้องเพิ่มที่ “คอลัมน์ถัดไปจากบรรทัดสุดท้ายที่มีข้อมูล” โครงสร้างการใช้งาน HLOOKUP HLOOKUP(ค่าที่จะค้นหา , ตารางที่เข้าไปค้นหา , ลำดับ Row ของข้อมูลที่แสดงผล , รูปแบบการ Lookup) จากตารางแนวนอน ถ้าต้องการค้นหา “ยอดขาย” ของพนักงาน โดยใช่ “ชื่อ” เป็น คีย์หลักในการค้นหา […]
Read More

VLOOKUP: สูตรสามัญประจำออฟฟิศของคนที่ใช้ Excel

ในบรรดาสูตรยอดนิยมของคนที่ต้องใช้วิเคราะห์ข้อมูลหรือจัดทำรายงานต่างๆ นั้น VLOOKUP มักเป็นหนึ่งในสูตรที่มักมีการใช้หรือถูกพูดถึงเสมอ เพราะมันประยุกต์ใช้ได้หลากหลายมาก ถ้าเอาง่ายๆ ก็คือ VLOOKUP เป็นสูตรที่เอาไว้ดึงข้อมูลระหว่าง 2 ตารางเอาไว้ด้วยกันครับ โดยจะมี “ตารางปลายทาง” ซึ่งก็คือตารางที่เราต้องการใส่ข้อมูล “ตารางต้นทาง” ซึ่งเป็นตารางที่เราต้องการค้นหาข้อมูลเพื่อนำไปใส่ปลายทาง ซึ่งระหว่างสองตาราง จะต้องมีคอลัมน์นึงที่เหมือนกัน เพื่อให้ 2 ตารางคุยกันรู้เรื่อง ซึ่งเราจะเรียกว่า Search Key แล้วมันช่วยประหยัดเวลายังไงล่ะ? เพราะ VLOOKUP มีให้ต่อดึงข้อมูลระหว่างสองตาราง ดังนั้น สิ่งที่เราต้องทำก่อนก็คือ….. ไปหาอีกตารางมาเป็น “ต้นทาง”  ในตัวอย่างนี้ หากมีข้อมูลซื้อขายแล้วต้องใส่ข้อมูลลูกค้า นั่นก็แสดงว่า ตารางต้นทางของเราไปก็คือ “ตารางลูกค้า” หรือ “customer” นั่นเอง ตารางต้นทาง 1 : Customer  ตารางปลายทาง : รหัสรายการสินค้า ตรงคอลัมน์“รหัสลูกค้า” ให้ใส่รหัสลูกค้าครับ ส่วนในคอลัมน์ “ชื่อลูกค้า” ให้ใส่สูตร=VLOOKUP(B2,customer!$A$1:$B$7,2,) ซึ่งสูตรนี้ จะไปดึง “ชื่อลูกค้า” มาให้เราโดยอัตโนมัติ จากนั้น เราก็สามารถพิมพ์แค่รหัสลูกค้า แล้วลากสูตรลงไปให้ครบทุกบรรทัด เราก็จะได้ชื่อของลูกค้าทุกคนมานั่นเอง ข้อควรระวัง แต่ถ้าเราพิมพ์รหัสผิด แล้วรหัสที่ผิดดันไปตรงกับรหัสอื่นในตารางต้นทาง จะไม่ขึ้น Error […]
Read More

(จะ)เอาความมั่นใจมาจากไหน?

เคยสังเกตมั้ยครับว่าคนที่มีความมั่นใจ มักจะได้เปรียบในสถานการณ์ต่างๆ มากกว่าคนที่ไม่มั่นใจ ความมั่นใจนี้อาจแบ่งได้ทั้งความมั่นใจในตัวเอง ความมั่นใจในงาน หรือความมั่นใจในเรื่องต่างๆ เฉพาะด้าน ถ้าถามคนที่มั่นใจว่าทำอย่างไร หลายคนอาจตอบว่าเพราะมีความรู้ความสามารถในเรื่องนั้นถึงมั่นใจ หรือมีประสบการณ์ถึงมั่นใจ หลายคนคิดว่าปัญหาของคนที่ขาดความมั่นใจคือขาดประสบการณ์กับความสามารถ ซึ่งเหมือนจะเกิดขึ้นเฉพาะน้องๆ ที่เพิ่งเริ่มทำงานเท่านั้น แต่ความจริง คือ ต่อให้ให้คุณประสบความสำเร็จ หรือมีประสบการณ์อย่างมากในเรื่องใด เรื่องหนึ่ง ถ้าคุณเริ่มทำสิ่งที่คุณไม่เคยทำ ไม่มีความรู้ คุณก็จะไม่มีความมั่นใจในเรื่องนั้น ผมได้ฟังคุณ Dan Sullivan ซึ่งเป็น strategic coach ชื่อดังแนะนำวิธีการสร้างความมั่นใจ หรือ Confidence ด้วยแนวคิด The 4 C’s 1. Commitment ขั้นแรกของการสร้างความมั่นใจคือ การมี commitment กับเรื่องที่ต้องการเปลี่ยน หรือพัฒนาให้มีความมั่นใจมากขึ้น ความอยาก ไม่เพียงพอที่จะสร้างความมั่นใจ หรือเปลี่ยนสิ่งต่างๆ ให้ดีขึ้นได้ 2. Courage เมื่อมี commitment สิ่งสำคัญที่คนมองข้ามในขั้นต่อมา คือ การมีความกล้าที่จะทำในสิ่งที่เราไม่เคย ทำในสิ่งที่เรายังทำไม่ได้ดี เช่น ถ้าเราอยากมีความมั่นใจในการพูดต่อหน้าคนอื่น […]
Read More

3 วิธีต่อกรกับสงครามราคา

3 วิธีต่อกรกับสงครามราคา หัวข้อนี้น่าจะเป็นที่คุ้นเคยกับหลายๆคน ใช่แล้วครับ สงครามราคาคือสิ่งที่ทุกคนต้องเคยพบเจอไม่มากก็น้อย บทความนี้จะมาแนะนำวิธีในการต่อกรกับสงครามราคาอย่างมีประสิทธิภาพ แน่นอนว่าคงไม่สามารถเอาชนะสงครามราคาได้ทุกกรณี แต่อย่างน้อยก็ทำให้คุณมีทรงมากกว่าเดิม คุณจะพอมีทางออกที่จะทำให้ชนะคู่แข่งได้แม้ราคาจะแพงกว่าก็ตาม มาดูกันเลยครับว่าทางออกที่ว่านั้นมีอะไรบ้าง 1. ขายตัวเอง สมมุติว่าของที่คุณขายเหมือนคนอื่นเป๊ะ คุณจะทำอย่างไรให้ลูกค้ามาซื้อคุณครับ ยกตัวอย่างเช่นคุณเป็นตัวแทนขายสินค้ายี่ห้อหนึ่งซึ่งมีตัวแทนในตลาดที่ขายของเหมือนคุณอีก 5 เจ้า ทุกอย่างเหมือนกันหมดทั้งเงื่อนไขก่อนและหลังการขาย คุณคงนึกอะไรไม่ออกนอกจากทำราคาส่วนลดถูกๆเพื่อดึงดูดลูกค้าใช่หรือไม่ครับ ราคาไม่ใช่คำตอบโดยเฉพาะในระยะยาว ในกรณีที่ว่านี้ ผมเชียร์ให้คุณ “ขายตัวเอง” ครับ สิ่งที่คุณต้องขายตัวเองมีดังต่อไปนี้ ต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าคุณเข้าถึงง่ายที่สุด เช่นผู้ขายรายอื่นอาจจะไม่เคยเข้าเยี่ยมลูกค้าเลย แต่คุณเข้าไปนำเสนอต่อหน้า นอกจากนั้นยังรับปากลูกค้าว่าสามารถเรียกเข้าไปเจอได้ตลอดเพื่อสอบถามข้อมูล ไม่นับรวมกับหลังการขายที่คุณให้คำมั่นกับลูกค้าว่าคุณจะไม่ทิ้งเค้าไป สามารถเรียกไปพบได้ตลอดเวลา ถ้าคู่แข่งไม่เคยเข้าไปพบลูกค้าเลย วิธีนี้จะช่วยให้คุณเริ่มต้นขายตัวเองสำเร็จ ให้มากกว่าที่ขอเสมอ เช่นลูกค้าขอ 3 อย่างคุณทำให้ 4 อย่าง ลูกค้าขอข้อมูลวันพุธแต่คุณส่งตั้งแต่วันจันทร์ ลูกค้าไม่ได้ขอข้อมูลอะไรเลยแต่คุณตั้งใจทำให้เพราะเห็นว่าเป็นประโยชน์กับลูกค้า นี่คือตัวอย่างของการให้มากกว่าที่ลูกค้าขอ ทำสิ่งที่คู่แข่งไม่ได้ทำ ลองพิจารณาให้รอบด้านและดูว่าอะไรบ้างที่คู่แข่งไม่เคยทำ สิ่งนั้นคือสิ่งที่คุณต้องพยายามทำให้กับลูกค้าครับ และแน่นอนว่าต้องเป็นสิ่งที่เกิดประโยชน์กับลูกค้าจริงๆ ถ้าจะยกตัวอย่างคงมีมากมายหลากหลายขึ้นอยู่กับงานของคุณ ลองนึกดูดีๆและหาให้เจอครับ ผมมั่นใจว่าต้องมีแน่ๆ ถ้าคุณทำสามสิ่งนี้ได้อย่างสม่ำเสมอ ผมมั่นใจว่าสุดท้ายลูกค้าจะรู้สึกได้ถึงคุณค่าของการมีคุณในฐานะนักขายที่ดูแลเค้า อย่างน้อยที่สุดเค้าต้องเกิดความเกรงใจ และหลายๆครั้งลูกค้าจะหันมาซื้อกับคุณแม้ราคาของคุณจะแพงกว่าก็ตาม 2. สร้างความขลังในการนำเสนอ […]
Read More

3 ขั้นตอนตอนพื้นฐานในการทำ Sales Planning

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังทำ Sales Planning หรือการวางแผนการขาย นี่คือบทความที่คุณควรติดตามครับ ผมจะมาอธิบายขั้นตอนง่ายๆที่คุณสามารถไปประยุกต์ได้ ขั้นตอนที่ว่านี้เหมือนเป็นพิมพ์เขียวที่จะช่วยให้แผนของคุณจับต้องได้และมีหลักการมากขึ้น สุดท้ายยอดขายของคุณจะมา  และที่สำคัญคือมาในแบบที่คุณตอบได้ด้วยว่ามาจากตรงไหนอย่างไร มาดูขั้นตอนที่ว่านั้นด้วยกันเลยครับ 1. ที่มายอดขาย แน่นอนว่าจุดประสงค์หลักของ Sales Planning คือการวางแผนเพื่อให้ได้มาซึ่งยอดขาย ดังนั้นผมแนะนำให้เริ่มจากตรงนี้ก่อน กล่าวคือ “กำหนดที่มายอดขาย” นั่นแปลว่าคุณจำเป็นต้องรู้ก่อนว่าจะไปเอายอดมาจากตรงไหน เหมือนกับคุณกำลังไปขุดล่าสมบัติ ก่อนไปคุณต้องมีลายแทงที่ชัดเจนก่อน คุณจะได้รู้ว่าต้องเดินทางไปที่ไหนอย่างไร ที่มายอดขายทั้งหมดมีดังนี้ 1) ยอดขายจากลูกค้าเก่า อันนี้คือต้องพยายามไม่ให้ลูกค้าเก่าหลุด บางคนได้หน้าลืมหลัง ลูกค้าใหม่หาได้ แต่ลูกค้าเก่าหลุดตลอด ดังนั้นที่มายอดขายอันแรกอาจจะไม่มีอะไรซับซ้อนไปกว่าการทำให้ลูกค้าเดิมซื้อซ้ำต่อเนื่องและไม่มีปัญหาอะไร 2) ลูกค้าใหม่ แน่นอนครับว่านี่เป็นแหล่งที่มายอดขายอีกอันหนึ่งซึ่งถือเป็นเส้นเลือดใหญ่ของทุกธุรกิจ เราจะรอพึ่งบุญเก่าจากลูกค้าเดิมตลอดเวลาไม่ได้เด็ดขาด ยิ่งถ้าธุรกิจของคุณไม่มีการซื้อซ้ำ การหาลูกค้าใหม่มาเติมถือเป็นเบสิคสำคัญ 3) ขายเพิ่มจากลูกค้าเดิม อันนี้ถือเป็นการต่อยอดจากข้อ 1 กล่าวคือทำให้ลูกค้าแฮปปี้มีความสุขกับเรา และมองหาโอกาสในการขายเพิ่มให้กับลูกค้าเดิม ดังนั้น Sales Planning ของคุณต้องเริ่มต้นที่นี่ก่อนครับ คุณต้องวางแผนก่อนว่าจะเอายอดมาจากอันไหนระหว่างหนึ่งในสามอันนี้หรือทั้งหมดเลย เพราะสุดท้ายวิธีการที่คุณจะเอายอดมาจากแต่ละแหล่งก็ไม่เหมือนกัน ดังนั้นนี่คือสิ่งที่คุณควรตอบได้เป็นลำดับต้นๆเสมอ 2. วัตถุประสงค์การขาย กล่าวคือคุณจะเน้นหรือโฟกัสที่เรื่องไหนเป็นพิเศษ เพื่อให้งานของคุณง่ายขึ้น ผมขอแนะนำว่าจุดประสงค์การขายมีอะไรบ้าง […]
Read More